Dropzone AI ระดมทุน 1,350 ล้านบาท พลิกวงการ Cybersecurity ด้วย AI SOC Analyst ลดภาระทีม SOC

Dropzone AI ระดมทุน 1,350 ล้านบาท พลิกวงการ Cybersecurity ด้วย AI SOC Analyst ลดภาระทีม SOC

SOC Analyst ดิจิทัล ที่ทำงานได้เหมือนมนุษย์แต่เร็วกว่าหลายเท่า

ในโลกที่ภัยไซเบอร์ทวีความซับซ้อน ทีม Security Operations Center (SOC) ขององค์กรต่างๆ มักเจอกับปัญหา แจ้งเตือน (alerts) จำนวนมหาศาล ที่ต้องตรวจสอบทุกวันจนแทบจะทำไม่ทัน นี่คือจุดที่ Dropzone AI สตาร์ทอัพจากซีแอตเทิลเข้ามาแก้โจทย์ ด้วยการพัฒนา AI SOC Analyst หรือ "นักวิเคราะห์ SOC ดิจิทัล" ที่สามารถรับภาระงานซ้ำๆ อย่างการคัดกรองและตรวจสอบเหตุการณ์ให้เสร็จสรรพ

ล่าสุด Dropzone AI ได้ระดมทุน Series B กว่า $37 ล้าน (ประมาณ 1,350 ล้านบาท) เพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและขยายตลาด การลงทุนครั้งนี้นำโดย Theory Ventures พร้อมกลุ่มผู้ร่วมลงทุนชื่อดังอย่าง Madrona, Decibel Ventures, Pioneer Square Labs และ IQT (SiliconAngle, 2025)

💬 “เรากำลังสร้างกองทัพ AI ช่วยปกป้ององค์กร ลดการทำงานแบบไล่ตามแจ้งเตือน และให้ SOC ทีมโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุด” – Edward Wu, CEO Dropzone AI

AI Analyst ทำอะไรได้บ้าง? ทำไมถึงสำคัญ 🔍

ระบบของ Dropzone ใช้เทคโนโลยี Large Language Models (LLMs) จำลองวิธีคิดของนักวิเคราะห์ SOC มืออาชีพ ทำงานเป็น Tier 1 Analyst ที่คอย คัดกรองแจ้งเตือน (triage) และ ตรวจสอบเหตุการณ์ (investigate) ในเวลาไม่กี่นาที เทียบกับมนุษย์ที่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อเคส

จุดเด่นคือ False negative (ตรวจไม่เจอ) ต่ำกว่า 1% และ False positive (แจ้งเตือนเกินจริง) ต่ำกว่า 10% ตัวระบบยังเรียนรู้สภาพแวดล้อมของแต่ละองค์กรได้เรื่อยๆ ทำให้แม่นยำขึ้นทุกวัน (GeekWire, 2025)

📱 ตัวอย่างใกล้ตัว

ลองนึกภาพบริษัทขนาดกลางที่มีทีม SOC เพียง 3 คน ก่อนใช้ AI ทีมต้องรับแจ้งเตือนวันละ 2,000–3,000 เคส บางครั้งต้องทำงานล่วงเวลา หลังติดตั้ง Dropzone AI ปริมาณงานซ้ำๆ ลดลง 30–50% ทำให้ทีมโฟกัสกับการล่าและตอบสนองต่อภัยจริงได้เร็วขึ้น

การเติบโตและลูกค้าองค์กรจริง 🏢

Dropzone AI มีลูกค้าองค์กรกว่า 100 รายทั่วโลก ทั้งบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง UiPath, Zapier, Pipe Technologies, Mysten Labs รวมถึงผู้ให้บริการ Managed Security Service Providers (MSSPs) อย่าง CBTS โดยในเคสของ CBTS ปริมาณงานแจ้งเตือนที่ต้องตรวจสอบลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง (SiliconAngle, 2025)

รายได้ของบริษัทก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด Q2 รายได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับ Q1 และ Edward Wu ซีอีโอเชื่อว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้า Dropzone จะเข้าสู่ จุดเปลี่ยน (inflection point) ที่องค์กรส่วนใหญ่จะมองว่า "ไม่ใช้ AI ถือว่าเสี่ยง" (BankInfoSecurity, 2025)

คู่แข่งในตลาดและจุดแข็งของ Dropzone 🚀

แม้จะต้องแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Google, Palo Alto Networks ที่พัฒนาฟีเจอร์ AI สำหรับ SOC แต่ Dropzone ชูจุดขายคือ Vendor-neutral สามารถเชื่อมต่อกับระบบเดิมที่องค์กรมีอยู่แล้วได้ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ล็อกกับเครื่องมือของค่ายใดค่ายหนึ่ง (BankInfoSecurity, 2025)

นอกจากนี้ยังมีบริการ "ทดลองใช้ฟรี" ไม่ต้องผ่านฝ่ายขาย ซึ่งเป็นวิธีสร้างความมั่นใจในเทคโนโลยีโดยตรง และยังออก Extension ชื่อ Coach ให้ SOC Analyst ใช้ AI เป็นผู้ช่วยใน Browser ได้ทันที

แผนอนาคต: AI ไม่หยุดแค่ SOC Analyst 🌐

Wu เผยว่าการระดมทุนครั้งนี้ไม่ได้หยุดที่ SOC Analyst แต่จะสร้าง AI Agents สำหรับงานด้าน Cybersecurity อื่นๆ เช่น Threat Hunting (ล่าหาภัยคุกคาม), Vulnerability Management (จัดการช่องโหว่) และ GRC (Governance, Risk & Compliance) เพื่อให้ทีม Cybersecurity ใช้ AI ได้ในทุกฟังก์ชัน

"เราต้องการให้ทีม Security มี AI Digital Workforce เต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้านของ Cybersecurity" Wu กล่าว (BankInfoSecurity, 2025)

Cybersecurity สำหรับทุกคน 👥

แม้บทความนี้พูดถึงองค์กร แต่แนวคิดก็ใช้ได้กับทุกคน ในยุคที่ AI ช่วยฝ่ายรุก (แฮกเกอร์) ได้มากขึ้น เราจำเป็นต้องมี AI ฝ่ายรับเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แอปสแกนไวรัสบนมือถือที่ใช้ AI ตรวจพฤติกรรมแอปผิดปกติได้แบบเรียลไทม์ หรือบริการอีเมลที่ตรวจจับ Phishing Link ได้อัตโนมัติ

ดังนั้นการเข้าใจว่า AI สามารถเป็นผู้ช่วยด้าน Cybersecurity ได้คือจุดเริ่มต้นที่ดี ทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและคนที่อยากทำงานในสายนี้

โลกไซเบอร์ไม่เคยหยุดนิ่ง หากเราไม่เริ่มใช้ AI ป้องกันภัย ก็อาจตกเป็นเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

📚 อ้างอิง

Update cookies preferences