AI แค่ช่วยตอบแชท หรือจะเป็นหัวใจของธุรกิจที่ยั่งยืน?

AI แค่ช่วยตอบแชท หรือจะเป็นหัวใจของธุรกิจที่ยั่งยืน?

Samsung ไม่ได้ใช้ AI แค่ในแอปหรือกล้องมือถือ แต่ใช้ AI เพื่อดูแลลูกค้า 🤝 ดูแลสิ่งแวดล้อม 🌍 และขยายโอกาสทางธุรกิจแบบยั่งยืน 📈 นี่คือสูตรลับที่กำลังพา Samsung โตเงียบๆ แต่มั่นคงสุดในยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี 🚀

💡 ถ้า AI ไม่ได้มาแทนคน...แต่มาช่วยให้ “บริการ” ดีขึ้นล่ะ?

ทุกวันนี้เราเห็น AI ในชีวิตประจำวันเต็มไปหมด — ตั้งแต่แชทบอทช่วยตอบปัญหา 💬 ไปจนถึงฟีเจอร์แปลภาษาบนมือถือ 🌐 แต่กับ Samsung, AI กลายเป็นมากกว่านั้น เพราะเค้าเอา AI ไป “เชื่อมโยงกับความยั่งยืน” ♻️

ไม่ใช่แค่การตลาด แต่คือกลยุทธ์จริงจังที่เริ่มเห็นผลชัด

ลองนึกภาพว่าแค่คุณถือมือถืออยู่เฉยๆ 📱 แล้วมีระบบเตือนว่าเครื่องกำลังมีปัญหา — หรือแค่กดปุ่มในแอป 👆 ก็มีช่างเตรียมอะไหล่แท้มาเปลี่ยนให้ภายในวันหยุด 🔧

แบบนี้ยังจะมองว่า AI คือเทคโนโลยีไกลตัวอยู่ไหม?

🧠 แล้ว AI ช่วยให้บริการดีขึ้น และรักษ์โลกได้ในเวลาเดียวกันยังไง?

สิ่งที่ Samsung กำลังทำคือเปลี่ยน “AI” ให้กลายเป็นตัวช่วยหลักในระบบบริการลูกค้าทั้งหมด 🛠️ ไม่ใช่แค่ตอบคำถามเร็วขึ้น แต่รวมถึง:

  • 🔔 ระบบแจ้งเตือนก่อนเครื่องพัง (AI Pre-Care)
  • 🎙️ ระบบวิเคราะห์ปัญหาด้วยเสียงพูดอัตโนมัติ (IVR)
  • 🏠 แอป SmartThings ที่เชื่อมอุปกรณ์ในบ้าน พร้อมส่งสัญญาณผิดปกติ
  • 🩺 การวิเคราะห์ด้วย AI แบบ 70 จุด เพื่อเช็กสุขภาพเครื่องก่อนซ่อมจริง
  • ♻️ AI บริหารจัดการอะไหล่ให้ลดของเสียจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนเกินจำเป็น

และล่าสุด SmartThings ยังทำให้เรื่องบ้าน ๆ กลายเป็น “เรื่องรักษ์โลก” ได้ด้วย เช่น:

SmartThings ยังทำให้เรื่องบ้าน ๆ กลายเป็น เรื่องรักษ์โลก ได้ด้วย
SmartThings ช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้อย่างชาญฉลาด ที่มา: Samsung Design for Home, 2025
  • ❄️ แอร์ WindFree ปรับอุณหภูมิตามความชื้นในห้อง + ลดพลังงานอัตโนมัติ
  • 🧊 ตู้เย็นรู้ว่าไฟบ้านแพงเกินเป้า แล้วถามคุณว่าอยากเปลี่ยนโหมดประหยัดไหม
  • 🧼 เครื่องซักผ้าประเมินชนิดผ้า–ขนาด–น้ำหนัก แล้วใช้ฟองเย็นแทนน้ำร้อนเพื่อลดไฟ
  • 🧹 เครื่องดูดฝุ่น Bespoke Jet™ AI รู้ว่ากำลังดูดบนพรมหรือกระเบื้อง แล้วลดพลังงานได้เอง
  • 📷 กล้องในตู้เย็น Family Hub™ รู้ว่าอะไรใกล้หมดอายุ และแนะนำเมนูให้ไม่ต้องทิ้งของ
Using AI Energy Mode with the WindFree Conditioner
Using AI Energy Mode with the WindFree Conditioner ที่มา: Samsung Newsroom Singapore. (31 กรกฎาคม 2024). SmartThings Helps You Use Less and Live More with AI.

ทั้งหมดนี้ช่วยลดของเสีย ลดการเปลี่ยนเครื่องใหม่ และลดคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดจากการผลิตซ้ำ 🌿

📍 ตัวอย่างใกล้ตัว

  • 📷 กล้องมือถือที่แจ้งเตือน “เลนส์สกปรก” โดยไม่ต้องเปิดแอป
  • ❄️ แอร์ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน และปรับให้ประหยัดไฟขึ้นอัตโนมัติ
  • 🧼 เครื่องซักผ้าที่บอกว่า “ผ้าผืนนี้ซักเบา ๆ ก็พอ ไม่ต้องใช้น้ำร้อน”
  • 🖥️ ร้านค้าที่ใช้จอ “Color E-Paper” เปลี่ยนราคาโดยไม่ต้องพิมพ์ป้ายใหม่ ใช้ไฟน้อยลงมาก
  • 🏭 ระบบ AI ในโรงงานผลิต ที่จัดการน้ำเสียและพลังงานโดยไม่ต้องใช้แรงงานเพิ่ม
  • 🔌 SmartThings สั่งปิดปลั๊กไฟ/ทีวีเมื่อคุณออกจากบ้าน
  • 🧼 AI วิเคราะห์ว่าเราซักผ้าบ่อยเกินไปไหม แล้วแนะนำรอบประหยัด
  • 🥚 กล้องในตู้เย็นที่บอกเราว่า “หมูใกล้หมดอายุแล้วนะ ทำเมนูนี้ไหม?”

และที่น่าสนใจคือ Samsung ไม่ได้ใช้ AI แค่ในฝั่งผลิตภัณฑ์ แต่ยังใช้ในระดับ CSR เช่น…

  • 🎓 โครงการ “SSAFY” ที่เทรนคนรุ่นใหม่ให้เขียน AI เอง ไม่ใช่แค่ใช้งาน
  • 🌟 ลงทุนในศูนย์พัฒนาเด็กด้อยโอกาสให้เข้าถึง AI อย่างเท่าเทียม
  • ⚖️ ใช้ AI ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนในซัพพลายเออร์ และปรับกระบวนการให้ดียิ่งขึ้น

🔁 แล้ว AI มีผลต่อ “โอกาสเติบโต” ยังไง?

AI ช่วยลดต้นทุน + เพิ่มความแม่นยำในการบริการ = ลูกค้าประทับใจ 😊

เมื่อคนใช้แล้วรู้สึกว่า “ได้รับการดูแล” มากกว่าแค่ “ซื้อของ” ก็ย่อมกลับมาซื้อซ้ำ ไม่ย้ายแบรนด์ง่ายๆ 🔄

นั่นทำให้ Samsung กล้าขายของพรีเมียมขึ้น เช่น มือถือพับได้, ตู้เย็น AI, จอรักษ์โลก ฯลฯ 💎

Samsung ยังใช้ AI เพื่อคาดการณ์แนวโน้มความต้องการสินค้าในแต่ละพื้นที่ ทำให้การจัดส่งและสต็อกมีประสิทธิภาพ ลดการขนส่งเกินจำเป็นซึ่งเป็นต้นเหตุของการปล่อยคาร์บอน 🚚

ยิ่งไปกว่านั้น... AI ยังเปิดช่องรายได้ใหม่ในกลุ่ม ESG เช่น

  • 🖼️ หน้าจอไร้พลังงานสำหรับร้านค้าปลีก
  • ระบบจัดการพลังงานอัตโนมัติในโรงงาน
  • 🗑️ การจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน 80 ประเทศ

เราเรียนรู้อะไรจาก Samsung และ AI?

AI ไม่ใช่แค่เครื่องมืออัจฉริยะ แต่เป็น “เครื่องมือสร้างความไว้ใจ” และ “เครื่องมือดูแลโลก” ถ้าใช้ให้ถูกวิธี 🌏

Samsung กำลังใช้ AI เปลี่ยนทั้งระบบบริการ การผลิต และ CSR ให้สอดคล้องกัน 🔗

เป้าหมายคือ: ลูกค้าได้ของดี โลกไม่แย่ลง และบริษัทก็อยู่รอดได้ 🏆

🌐 ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดรอบตัวเรา:

  • 🏦 แอปธนาคารที่ใช้ AI แจ้งเตือนความเสี่ยงก่อนโดนหลอก
  • 🛒 เว็บช้อปปิ้งที่แนะนำของแบบ “รู้ใจ”
  • ♻️ การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในห้างที่มีจุดรับคืน
  • 📚 ศูนย์เรียน AI สำหรับวัยรุ่นที่ไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อน
  • 🔧 ร้านซ่อมที่ใช้ AI วิเคราะห์ปัญหาเครื่องก่อนเปิดฝา

คำถามสุดท้ายคือ… AI ควรแค่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น หรือควรช่วยให้เรามีชีวิตที่ "ยั่งยืน" ขึ้นด้วย?

📚 อ้างอิง

Update cookies preferences