เมื่อสงครามนิวเคลียร์ลุกลามถึงไซเบอร์!

เมื่อสงครามนิวเคลียร์ลุกลามถึงไซเบอร์!

ภัยคุกคาม Cyber จากอิหร่าน: คนไทยต้องรู้ก่อนจะสายเกินไป

เมื่อวันเสาร์คืนที่ 21 มิถุนายน 2025 ตามเวลาสหรัฐฯ (วันอาทิตย์เช้าตามเวลาไทย) สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump ได้โจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง รวมถึงสถานที่สำคัญชื่อ Fordo, Natanz และ Isfahan โดยใช้ระเบิดทะลุบังเกอร์ขนาด 30,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ โจมตีอิหร่านโดยตรง

อิหร่านได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์ และมีการประกาศหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

อันตราย Cyber ที่กำลังมา 💻

หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ เตือนแล้ว!

  • ⚠️แฮกเกอร์อิหร่านจะเพิ่มการโจมตีไซเบอร์ต่อสหรัฐฯ
  • 🛑การโจมตีระดับต่ำจากกลุ่มแฮกติวิสต์ที่สนับสนุนอิหร่านมีแนวโน้มสูง
  • 🔐แฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านอาจโจมตีเครือข่ายสหรัฐฯ

อิหร่านทำอะไรในโลกไซเบอร์? 🔍

เป้าหมายที่เคยโจมตี:

  • ธนาคารต่างๆ
  • บริษัทน้ำมันซาอุดิอาระเบีย
  • การเลือกตั้งสหรัฐฯ
  • ระบบควบคุมอุตสาหกรรม (ICS)
  • โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

เทคนิคที่ใช้:

  • Phishing: ส่งอีเมลหลอกลวงให้คลิกลิงก์อันตราย
  • Brute Force: ทดลองรหัสผ่านแบบบังคับ
  • Social Engineering: หลอกลวงผ่านช่องทางสังคม
  • มัลแวร์ IOCONTROL: ตัวร้ายที่โจมตีอุปกรณ์ IoT และ OT

กลุ่มแฮกเกอร์อิหร่านที่ต้องระวัง ⚠️

CyberAv3ngers

  • แฝงตัวเป็นกลุ่มแฮกติวิสต์ แต่จริงๆ แล้วได้รับการสนับสนุนจากรัฐ
  • พัฒนามัลแวร์ IOCONTROL เพื่อโจมตีอุปกรณ์ IoT และ OT ในสหรัฐฯ และอิสราเอล

คนไทยต้องกังวลไหม? 🇹🇭

ความเสี่ยงสำหรับคนไทย:

  • บริษัทไทยที่มีธุรกิจกับสหรัฐฯ อาจถูกโจมตีแบบพาไปด้วย
  • การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานโลกอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
  • เทคนิคการโจมตีอาจถูกนำไปใช้กับเป้าหมายอื่น

วิธีป้องกันตัวเอง 🛡️

สำหรับบุคคลทั่วไป:

  1. อัปเดตระบบและแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
  2. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน
  3. เปิด Two-Factor Authentication (2FA)
  4. ระวังอีเมลและลิงก์ต้องสงสัย
  5. สำรองข้อมูลสำคัญเป็นประจำ

สำหรับธุรกิจ:

  1. ติดตั้ง Endpoint Detection and Response (EDR)
  2. ฝึกอบรมพนักงานเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์
  3. วางแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน (Incident Response Plan)
  4. ตรวจสอบระบบเป็นประจำ

มุมมองผู้เชี่ยวชาญ 🎯

John Hultquist จาก Google Threat Intelligence Group เตือนว่า:

"อิหร่านมักจะโอ้อวดหรือแต่งเติมผลกระทบของการโจมตีเพื่อสร้างความหวาดกลัว เราไม่ควรประเมินเหตุการณ์เหล่านี้สูงเกินไปและช่วยให้ผู้โจมตีบรรลุเป้าหมายโดยไม่รู้ตัว"

แต่เขายังเตือนว่าผลกระทบอาจรุนแรงสำหรับองค์กรเฉพาะ และควรเตรียมความพร้อมเหมือนการป้องกัน Ransomware

รายงานเพิ่มเติมจาก Department of Homeland Security เตือนว่า “สภาพแวดล้อมภัยคุกคามเพิ่มสูงขึ้น” หลังการโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยตำรวจกำลังจับตาและเตรียมทีม FBI เพื่อป้องกันการโจมตีในระดับสิ่งกายภาพและไซเบอร์

สิ่งที่ควรจับตา 👀

  1. การพัฒนาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
  2. คำเตือนจากหน่วยงานความมั่นคง
  3. การอัปเดตเครื่องมือป้องกันไซเบอร์
  4. แนวโน้มการโจมตีใหม่ๆ

สรุป 📝

แม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน จะมีการประกาศหยุดยิงแล้ว แต่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ยังคงมีอยู่ การเตรียมความพร้อมและรู้เท่าทันภัยคุกคามเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ

การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานความมั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมของทุกคนในยุคดิจิทัล

📚 แหล่งอ้างอิง

  • The Washington Post. (2025, June 24). Iran’s cyber forces have many ways to attack U.S., experts warn. Retrieved from The Washington Post.
  • The Washington Post. (2025, June 24). As US cities heighten security, Iran's history of reprisal points to murder-for-hire plots. Retrieved from The Washington Post.
  • SecurityWeek. (2025, June 22). US Braces for Cyberattacks After Joining Israel-Iran War. Retrieved from SecurityWeek.
  • Economic Times. (2025, June 22). US braces for low-level cyberattacks by Tehran. Retrieved from Economic Times.
  • NBC News. (2025, June 21). Iran-Trump Nuclear Israel Bombing: What's Next. Retrieved from NBC News.
  • Department of Homeland Security (DHS). (2025). Cybersecurity Threat Advisory: Iran-Linked Threat Groups.
  • Google Threat Intelligence Group. (2025). Expert Commentary on Iranian Cyber Capabilities.
  • Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA). (2025). Iran Cyber Threat Landscape Summary.
Update cookies preferences